แกงมัสมั่นไก่

ส่วนผสม

เนื้อสะโพกหรือน่องไก่ 300 กรัม
เครื่องแกงมัสมั่น 40 กรัม
หัวกะทิ 100 กรัม
หางกะทิ 300 กรัม
น้ำต้มกระดูก 250 กรัม
ถั่วลิสงคั่ว 50 กรัม
มันฝรั่ง 100 กรัม
หัวหอมแขก 100 กรัม
น้ำตาลปี๊บ 30 กรัม
น้ำมะขามเปียก 2 ช้อนโต๊ะ
เกลือป่น 1 ช้อนชา
ลูกกระวาน 3 กรัม
ใบกระวาน 2 กรัม

วิธีการทำ

วิธีทำ
1. เคี่ยวกะทิให้แตกมัน ใส่เครื่องแกงมัสมั่น ผัดให้หอม แบ่งหางกะทิเป็น 2 ส่วน นำครึ่งหนึ่งผัดกับเครื่องแกง พอเดือด ใส่ไก่ลงไป เติมหางกะทิที่เหลือ
2. ใส่น้ำต้มกระดูก พอเดือด ใส่ลูกกะวาน ใบกะวาน ถั่วลิสง มันฝรั่ง เคี่ยวจนเนื้อไก่นุ่ม มันฝรั่งสุก แล้วจึงปรุงรสด้วย เกลือป่น น้ำตาลปี๊บ น้ำมะขามเปียก
3. ใส่หัวหอมแขก เคี่ยวต่อจนน้ำงวด
4. ตักใส่ภาชนะเสิร์ฟ

เคล็ดลับ
การคั้นน้ำมะขามเปียกใช้อัตราส่วนมะขามเปียก 1 ส่วนต่อน้ำ 3-3.5 ส่วน ถ้าเป็นน้ำมะขามเปียกสำเร็จรูป ต้องปรับสัดส่วนตามความเปรี้ยวที่แตกต่างกัน

ต้มยำกุ้ง

ส่วนผสม

กุ้งแม่น้ำ 3 ตัว
เห็ดฟาง 100 กรัม
ตะไคร้หั่นบาง 10 กรัม
ตะไคร้หั่นท่อนบุบ 16 กรัม
รากผักชี 2 กรัม
ใบมะกรูดฉีก 3 ใบ
น้ำต้มกระดูก 300 กรัม
พริกขี้หนูสวนบุบ 10 กรัม
น้ำปลา 3 ช้อนโต๊ะ
น้ำมะนาว 3 ช้อนโต๊ะ
นมข้นจืด 120 กรัม
น้ำพริกเผา 2 ช้อนโต๊ะ
ผักชี

วิธีการทำ

1. ต้มน้ำต้มกระดูกโดยใส่เปลือกกุ้ง ตะไคร้หั่นท่อน และรากผักชี เมื่อเดือดยกลง
กรองเอาแต่น้ำเป็นน้ำสต็อก
2. นำน้ำสต็อกตั้งไฟ ใส่ตะไคร้ เห็ดฟาง พอน้ำเดือดใส่กุ้งรอจนเดือดแล้วใส่น้ำปลา ฉีกใบมะกรูดใส่ลงไป
3. ละลายน้ำพริกเผากับนมข้นจืดในชามเสิร์ฟ คนให้เข้ากัน เติมน้ำมะนาว พริกขี้หนูบุบ
4. ตักต้มยำใส่ชามเสิร์ฟ โรยหน้าด้วยผักชี
เคล็ดลับ
1. ควรใส่น้ำปลาขณะที่น้ำเดือด จะทำให้มีกลิ่นหอมและไม่คาว
2. ควรใส่น้ำมะนาวเมื่อปิดไฟและยกลงจากเตาแล้ว จะทำให้มีกลิ่นหอมและไม่มีรสปร่า ขม

ขอขอบคุณข้อมูลจาก thaifoodheritage

8 จุดเช็คอิน เชียงราย !! หนาวนี้วางแพลนไปสัมผัสไอหมอกกัน

ขึ้นเหนือไปแอ่ว เชียงราย กันสักทริปไหม ไปดูให้รู้กันเลยว่า เชียงราย มีธรรมชาติน่าเที่ยว บรรยากาศดี ไม่แพ้จังหวัดอื่นๆ ถ้าพร้อมแล้วตามไปดูกันเลย ใน จุดเช็คอิน เชียงราย !! หนาวนี้วางแพลนไปสัมผัสไอหมอกกัน ที่เราคัดมาแล้ว ว่าสายธรรมชาติจะต้องเลิฟอย่างแน่นอน มีทั้งขึ้นดอยชมวิวทิวเขา ชมดอกไม้สวยๆ นั่งจิบชาชิลล์ๆ ยืนมองแนวเขตแดนของประเทศ หรือจะไปนั่งดื่มกาแฟชมวิวหมอก บอกเลยว่าทั้งหมดนี้จะทำให้คุณอยากไปเชียงรายเพิ่มขึ้นอีกอย่างแน่นอน

1. อุทยานแห่งชาติภูชี้ฟ้า (Phu Chi Fa National Park)

เริ่มกันที่จุดชมวิวบนยอดเขาสูงในเทือกเขาดอยผาหม่น อุทยานแห่งชาติภูชี้ฟ้า หรือที่หลายๆ คนเรียกกันจนชินในชื่อว่าภูชี้ฟ้า เป็นจุดชมวิวทะเลหมอกและจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นที่สวยงามแห่งหนึ่งของจังหวัดเชียงรายที่อยากแนะนำให้ทุกคนไปสัมผัสด้วยตาตัวเองสักครั้งในชีวิต ภูชี้ฟ้าตั้งอยู่บนความสูงกว่า 1,628 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง ด้วยความสูงนี้ทำให้นักท่องเที่ยวได้เห็นทะเลหมอกเต็มๆ วิวธรรมชาติแบบสุดลูกหูลูกตา ที่สำคัญภูชี้ฟ้ายังมีอากาศเย็นตลอดทั้งปี แต่ถ้าอยากสัมผัสความหนาวแบบเต็มๆ แนะนำให้มาช่วงเดือนธันวาคมเลยจ้า


2. ภูชี้ดาว (Phu Chi Dao)

ขอแนะนำ ภูชี้ดาว จุดชมวิวทะเลหมอกที่สวยงามไม่แพ้ภูชี้ฟ้า มีจุดเด่นอยู่ที่ยอดเขาสูงสุดที่เป็นยอดแหลมสามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ได้แบบ 360 องศา ชมความงดงามของเทือกเขาจากมุมสูงที่สลับซับซ้อน ใครเป็นสายธรรมชาติ อยากชมความงดงามและความอุดมสมบูรณ์ของป่าเขา ต้นไม้เขียวๆ บอกเลยว่าห้ามพลาด ยิ่งมาในช่วงเช้าตอนพระอาทิตย์กำลังขึ้น ยืนชมท้องฟ้าที่มีแสงสีทองสวยงามตระการตาโรแมนติกสุดๆ

  • Location: บ้านร่มโพธิ์เงิน ม.11 ต.ปอ อ.เวียงแก่น จ.เชียงราย
  • Fee: ไม่เสียค่าเข้าชม

3. สะพานไม้ไผ่ไร่ผาฮี้ (Bamboo Walk Phahee)

ใครมาเที่ยวผาฮี้ต้องมาเช็คอินที่ สะพานไม้ไผ่ไร่ผาฮี้ จุดชมวิวธรรมชาติที่สามารถมองเห็นวิวทิวเขาสลับซับซ้อนได้แบบพาโนราม่า จุดเด่นอยู่ที่สะพานไม้ที่ทอดยาวเป็นสกายวอล์คตามแนวเขาที่ตกแต่งด้วยร่มหลากสีแสนสดใสเป็นไฮไลท์ ที่สำคัญตลอดทางเดินมีจุดแวะให้ถ่ายรูปมากมาย ด้านบนสุดมีจุดชมวิวหอคอยรักไม้ไผ่ให้ยืนชมวิวสวยๆ สุดกรีนอีกด้วย ขอบอกก่อนว่าการเดินทางมาที่สะพานไม้ไผ่ไร่ผาฮี้จะต้องติดต่อรถของสะพานไม้ไผ่ไร่ผาฮี้เท่านั้นนะ เพราะทางค่อนข้างชันและอันตราย จึงต้องใช้คนขับที่ชำนาญทางเท่านั้นในการพาขึ้นมา แต่บอกเลยว่าคุ้มสุดๆ แน่นอนเมื่อมาถึง

  • Location: หมู่บ้านผาฮี้ ต.โป่งงาม อ.แม่สาย จ.เชียงราย
  • Phone: 088 295 8387
  • Open-Close: เปิดทุกวันเวลา 07.30 – 18.00 น.
  • Fee: ค่ารถไป – กลับ 60 บาท
  • Facebook: สะพานไม้ไผ่ไร่ผาฮี้

4. ยาโยฟาร์ม (YAYO FARM)

แวะดื่มกาแฟดอยช้างกันที่ YAYO FARM คาเฟ่วิวสุดอลังการเห็นวิวธรรมชาติ ทิวเขาแบบ 180 องศา พร้อมสัมผัสอากาศเย็นๆ ชมวิวทะเลหมอกแบบฟุ้งๆ ไปควบคู่กับกาแฟแก้วโปรดรสชาติดี ที่ทางร้านคัดสรรมาแล้วอย่างพิถีพิถัน เพราะที่นี่นอกจากเป็นคาเฟ่แล้วยังเป็นทั้งศูนย์การเรียนรู้ โรงแปรรูปกาแฟอาราบิก้าอีกด้วย บอกเลยว่าคอกาแฟต้องมาลอง ในส่วนของเมนูแนะนำก็คือ Yuzu on the hill, Kiss me softly และ Sugar man สำหรับใครที่ไม่ดื่มกาแฟแนะนำเป็น After sunset และ Before sunset ไปต่อกันที่เมนูเบเกอรี่ ที่นี่ก็มีเค้กที่อบสดใหม่ทุกวัน เช่น Macadamia cheesecake, Chocolate cake, Carrot cake, Red velvet และ Nutellan Banoffee ใครมองหาคาเฟ่บรรยากาศดี กาแฟเด็ด ต้องมาที่ YAYO FARM

  • Location: 1001 ม.3 ต.วาวี อ.แม่สรวย จ.เชียงราย
  • Phone: 096 060 1314
  • Open-Close: เปิดบริการทุกวัน เวลา 08.30 – 17.30 น. (นั่งได้ถึง 18.00 น.)
  • Facebook: YAYO FARM

5. ฐานปฏิบัติการดอยช้างมูบ เชียงราย

ใครอยากชมวิวทิวทัศน์ของแนวเขตชายแดนไทย – เมียนมา แวะมาที่ ฐานปฏิบัติการดอยช้างมูบ อยู่บนดอยช้างมูบ ดอยที่สูงที่สุดของเทือกเขาดอยตุง บนริมถนนสายพระธาตุดอยตุง บ้านผาหมี ที่นี่เป็นจุดชมวิวทะเลหมอก และพระอาทิตย์ตกที่สวยงามอีกแห่งหนึ่งของเชียงรายที่อยากแนะนำ พื้นที่บริเวณฐานปฏิบัติการดอยช้างมูบเป็นพื้นหญ้าเขียวให้เดินเล่น ชมวิว มีบังเกอร์ทหารของจริงให้เราได้ลองมองวิวจากในบังเกอร์ได้อีกด้วย สำหรับนักท่องเที่ยวที่อยากดื่มด่ำกับบรรยากาศธรรมชาติสวยๆ แนะนำให้มาที่นี่สักครั้ง

  • Location: ดอยช้างมูบ ต.โป่งงาม อ.แม่สาย จ.เชียงราย

6. ดอยสะโง้ (Doisango)

ไปเที่ยวกันที่ ดอยสะโง้ เชียงแสน มีไฮไลท์อยู่ที่ชมวิวสุดอันซีนแบบ 360 องศา ของพื้นที่สามประเทศคือไทย ลาว เมียนมา พร้อมสัมผัสความน่ารักของหมู่บ้านเล็กๆ ของชนเผ่าอาข่าที่ยังคงรักษาขนบธรรมเนียมแบบดั้งเดิมเอาไว้ได้อย่างดี มาถึงดอยสะโง้ทั้งทีอยากแนะนำให้พักโฮมสเตย์กันสักคืนเพื่อสัมผัสบรรยากาศเย็นๆ ชมวิวทั้งกลางวันและกลางคืน ที่สำคัญที่ดอยสะโง้นี้สามารถชมวิวพระอาทิตย์ขึ้นและพระอาทิตย์ตกได้อย่างสวยงาม ใครชอบท่องเที่ยวแบบธรรมชาติพร้อมสัมผัสวิถีชีวิตแนะนำให้มาที่นี่เลย

  • Location: ดอยสะโง้ ต.ศรีดอนมูล อ.เชียงแสน จ.เชียงราย

7. โครงการพัฒนาดอยตุงฯ เชียงราย

ไปชมความงามของดอกไม้เมืองหนาวนานาชนิด ต้นไม้นานาพรรณกันที่โครงการพัฒนาดอยตุงฯ ที่แบ่งออกเป็นส่วนต่างๆ ให้ได้เข้าชมกัน เริ่มกันที่ พระตำหนักดอยตุง ที่ผู้มาเยือนจะดื่มด่ำกับสถาปัตยกรรมอันงดงามของศิลปะล้านนาที่ผสมผสานกับศิลปะของสวิตเซอร์แลนด์ ไปต่อกันที่สวนแม่ฟ้าหลวง หรือสวนดอยตุง สวนดอกไม้ที่ถูกจัดไว้อย่างสวยงามทั้งไม้ดอกไม้ประดับหลากหลายชนิด เพื่อให้ผู้มาเยือนได้ชื่นชมและถ่ายรูปกันอย่างเพลิดเพลิน และปิดท้ายกันที่ Doi Tung Tree Top Walk เส้นทางศึกษาธรรมชาติ ที่จะพาคุณไปสัมผัสธรรมความกรีนของผืนป่าดอยตุงไปพร้อมๆ กับความตื่นเต้นขณะที่อยู่บนสะพานเดินเรือนไม้ดอยตุง บอกเลยว่าที่โครงการพัฒนาดอยตุงฯ เป็นอีกที่เที่ยวของจังหวัดเชียงรายที่คุณต้องมาให้ได้

  • Location: ต.แม่ฟ้าหลวง อ.แม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย
  • Open-Close: เปิดบริการทุกวัน เวลา 08.00 – 17.00 น.
  • Fee: ค่าเข้าชมคนละ 90 บาท

8. ไร่ชาฉุยฟง (Choui Fong Tea)

มาถึงจังหวัดเชียงรายจะไม่ไปไร่ชาได้อย่างไร ไปเช็คอินจิบชาคุณภาพดีกันที่ ไร่ชาฉุยฟง ในอำเภอแม่จันกันเถอะ เพราะภายในไร่ชาที่เขียวขจีนี้มีคาเฟ่ดีไซน์สวยซ่อนตัวอยู่ด้วย ให้นักท่องเที่ยวได้ลิ้มลองชาในบรรยากาศสุดชิลล์ มองวิวไร่ชาไปด้วย ไม่เพียงแต่เครื่องดื่มเมนูชาเท่านั้น แต่ที่นี่ยังมีเบเกอรี่ให้เลือกกินคู่กับชาอย่างฟินๆ ด้วย ไม่ว่าจะเครปเค้กชาเขียว ครัวซองชาเขียว แยมโรลชาเขียว ทีรามิสุชาเขียว และอื่นๆ อีกหลายเมนู ส่วนใครติดใจทางคาเฟ่ก็มีชาให้ซื้อเป็นของฝากกลับบ้านด้วยนะ

  • Location: 97 ม.8 ต.ป่าซาง อ.แม่จัน จ.เชียงราย
  • Open-Close: เปิดบริการทุกวันเวลา 08.30 – 17.30 น.
  • Phone: 053 771 563
  • Facebook: ไร่ชาฉุยฟง

กระเพาะปลา

ส่วนผสม

1. กระเพาะปลา 2 ขีด

2. เห็ดหอม

3. กระดูกหมู

4. เครื่องต้มยาจีน 1 ซอง

5. ผงปรุงรส 1/2 ช้อนโต๊ะ

6. เกลือ/ซีอิ๊วขาว/น้ำมันหอย

7. แป้งมัน

8. เนื้อปู

9. ผักชี

วิธีทำ

1.น้ำกระเพาะปลามาแช่น้ำเย็นเพื่อลดอุณหภูมิ สำหรับการเลือกกระเพาะปลาสามารถใช้แบบแท่งหรือแบบก้อนก็ได้ ตามความชอบ

2. เนื่องจากกระเพาะปลาถูกทอดก่อนเอามาขายจึงอมน้ำมันไว้ค่อนข้างมาก จึงต้องบีบไล่น้ำมันสลับกับล้างน้ำสะอาด เพื่อล้างกลิ่นน้ำมันและกลิ่นคาวให้หมด เมื่อล้างเสร็จแล้วพักไว้

3. ล้างเห็ดหอมแล้วแช่น้ำไว้

4. ต้มน้ำจนเดือด ใส่กระดูกหมูและยาจีนลงไป

5. ใส่เห็ดหอมลงและน้ำแช่เห็ดหอมลงไปด้วย
6. ต้มไปเรื่อยๆ จนน้ำใส ถ้ามีฟองก็คอยช้อนออกเรื่อยๆ
7. ปรุงรสด้วยผลปรุงรส เกลือ ซีอิ้วขาว น้ำมันหอย ให้ได้รสตามชอบ

8. เมื่อปรุงรสได้ตามชอบแล้ว ใส่กระเพาะปลาลงไป

9. ต้มต่อไปสักพัก จนกระดูกหมูเริ่มเปื่อยแล้วละลายแป้งมันในน้ำเติมลงไป

10. คนไปเรื่อยๆ อย่าให้แป้งจับตัวเป็นก้อน

11. ตักใส่ถ้วย โรยหน้าด้วยผักชีและเนื้อปู

สะโพกไก่ทอด ซอสน้ำปลาคาราเมล สูตรคีโตเจนิค

ส่วนผสมซอสน้ำปลาคาราเมล

  1. น้ำปลาตราหอยเป๋าหื้อ
  2. สามเกลอ
  3. หญ้าหวาน
  4. กะทิ
  5. กะเทียมสับละเอียด
  6. เนย

วิธีทำ

  1. ทอดไก่ในหม้อทอดไร้น้ำมัน 180 องศา 20 นาที ซับหนังให้แห้งก่อนเข้าหม้อทอด หนังจะกรอบและข้างในจะนุ่ม ไม่หมักอะไรเลย
  2. นำส่วนผสมซอสลงหม้อทั้งหมด ตั้งไฟอ่อนๆ สักพัก
  3. เสร็จแล้วนำราดสะโพกไก่ทอดที่เตรียมไว้ แค่นี้ก็พร้อมเสิร์ฟแล้วค่ะ

สะเต๊ะไก่ราดซอสเนยถั่ว สูตรคีโต

วัตถุดิบ

  1. เนื้อไก่
  2. กะทิ
  3. เนยถั่ว
  4. น้ำมันมะกอก
  5. ซีอิ๊ว (เลือกที่เป็นเฉพาะของคีโต)
  6. น้ำตาลอิริททริทอล
  7. มะนาว
  8. ต้นหอม
  9. ผงกะหรี่ (สะเต๊ะ)
  10. ผงปรุงรส

วิธีทำ

  1. หมักเนื้อไก่ด้วยผงกะหรี่ และผงปรุงรส น้ำตาลอิริทริทอล กะทิ  คนให้เข้ากันแล้วพักไว้
  2. ทำซอสเนยถั่วโดย เทน้ำมันมะกอกลงชามผสม ตามด้วยเนยถั่ว ซีอิ๊ว น้ำมะนาว จากนั้นตีให้ส่วนผสมเข้ากันดี
  3. นำไก่ที่หมักจนเข้าที่แล้ว เสียบไม้ เพื่อนำไปย่าง หรือกริลบนกะทะ จนสุก
  4. เมื่อไก่สุกจัดใส่จาน ราดด้วยซอสเนยถั่ว โรยต้นหอม พร้อมเสิร์ฟแล้ว

กุ้งอบวุ้นเส้น

ส่วนผสม ซอสกุ้งอบวุ้นเส้น

  • น้ำมันหมู 8-10 ช้อนโต๊ะ
  • เห็ดหอม 4-5 ดอก
  • รากผักชีตำ 2-3 ราก
  • ต้นหอมตำ 2-3 ต้น
  • ขิงบุบ 1 แง่งใหญ่
  • กระเทียมไทยตำ 15-20 กลีบ
  • พริกไทยดำตำ 2 ช้อนโต๊ะ
  • เหล้าจีน 10 ช้อนโต๊ะ (ไม่ใส่ก็ได้ แต่แนะนำให้ใส่)
  • น้ำเปล่า 250-350 มิลิลิตร
  • ผงปรุงรส 1 ช้อนโต๊ะ
  • เกลือ 2 ช้อนชา
  • น้ำตาลทราย 8 ช้อนชา
  • ซอสปรุงรส 6 ช้อนโต๊ะ
  • ซอสหอยนางรม 10 ช้อนโต๊ะ
  • ซีอิ้วดำหวาน 3 ช้อนโต๊ะ

ส่วนผสม กุ้งอบวุ้นเส้น

  • วุ้นเส้น 1 ห่อ
  • ซอสกุ้งอบวุ้นเส้น 1.5 – 2 กระบวย
  • หมูสามชั้น 60 กรัม
  • กุ้งสด 8-10 ตัว
  • ขิงสไลด์ 1 แง่งเล็ก
  • ขึ้นฉ่าย 2-3 ต้น
  • น้ำเปล่า 50 มิลลิลิตร

วิธีทำ ซอสกุ้งอบวุ้นเส้น

1. ตั้งกระทะ ใส่น้ำมันหมู แล้วเจียวให้ร้อน

2. ใส่เห็ดหอมที่แช่น้ำแล้วลงไป เจียวเห็ดหอมจนได้กลิ่นหอม และสีเป็นสีเหลืองทอง

3. ใส่รากผักชี กระเทียม พริกไทย ต้นหอม และขิงลงไปผัดจนหอม ถ้าน้ำมันแห้งให้เติมน้ำมันลงไปเพิ่ม

4. พอทุกอย่างหอมและเข้ากันดี ใช้ไฟแรง ใส่เหล้าจีนลงไปผัด แล้วเติมน้ำเปล่าตามลงไป

5. ปรุงรสด้วยผงปรุงรส เกลือ น้ำตาลทราย ซอสปรุงรส น้ำมันหอย คนให้ทุกอย่างเข้ากัน

6. แต่งสีด้วยซีอิ๊วดำหวาน เติมน้ำอีกเล็กน้อย คนให้ส่วนผสมเข้ากันดี แล้วปล่อยให้ซอสเดือด ปิดแก๊ส

7. พักซอสให้เย็นตัวก่อนนำใส่ตู้เย็น

วิธีทำ กุ้งอบวุ้นเส้น

1. ตั้งกระทะ ใส่หมูสามชั้น เจียวจนน้ำมันออกมา

2. พอน้ำมันหมูออกมาแล้วให้ใส่ขิงลงไปเจียวเพื่อเพิ่มความหอม

3. พอน้ำมันหมูออกมามากขึ้น ให้ใส่ซอสกุ้งอบวุ้นเส้นลงไปประมาณ 1+1/2 กระบวย

4. ใส่วุ้นเส้นที่แช่น้ำแล้วลงไป ผัดให้ส่วนผสมเข้ากัน และวุ้นเส้นดูน้ำซอสเข้าไป

5. ใส่กุ้งลงไปในกระทะ เติมซอสน้ำเปล่าเล็กน้อย เปิดไฟแรงแล้วปิดฝาอบจนกุ้งสุกดี ประมาณ 5-7 นาที

6. เปิดฟา แล้วคลุกเคล้ากุ้งอบวุ้นเส้นให้เข้ากันโรยขึ้นฉ่าย ตักใส่จานพร้อมเสิร์ฟ

เครดิตจาก

ผัดสะตอกุ้งสด

ส่วนผสม

  • กระเทียมกลีบเล็ก (กลีบ)15กลีบ
  • กะปิ (ช้อนโต๊ะ)1ช้อนโต๊ะ
  • กุ้งสดไว้หาง ตราซีพี Size XL (ถ้วย)1/2ถ้วย
  • น้ำซุปไก่ใส ตราซีพี ผสมน้ำเปล่า อัตราส่วน 1:3 (ถ้วย)1/4ถ้วย
  • น้ำตาลทราย (ช้อนชา)1/2ช้อนชา
  • น้ำปลา1ช้อนโต๊ะ
  • พริกขี้หนูสวน (เม็ด)20เม็ด
  • มันหมูอนามัย ตราซีพี (ช้อนโต๊ะ)2ช้อนโต๊ะ
  • สะตอ (ถ้วย)1ถ้วย

วิธีทำ

  • 1โขลกกระเทียมกับพริกขี้หนูให้แหลก ใส่กะปิลงโขลกรวมกัน ตักใส่ถ้วยพักไว้
  • 2เจียวมันหมูอนามัยประมาณ 1 นาทีให้ละลาย ผัดส่วนผสมที่โขลกไว้ด้วยไฟกลางจนมีกลิ่นหอม
  • 3ปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำตาล ตักใส่จานเสิร์ฟได้ทันที